การเลือกดูเพชรทุกครั้ง ต้องยึดหลัก 4 C
4 C
คืออะไร? 4 C คือ
1.Clarity (ความบริสุทธิ์)
2.Color (สี)
3.Cut (การเจียระไน)
4.Carat Weight (น้ำหนักกะรัต)
1. Clarity (ความบริสุทธิ์)
เพชรเป็นแร่ธรรมชาติ
มักมีสินแร่เจือปนอยู่แล้ว หรือเรียกง่ายๆก็คือ "ตำหนิ" นั่นเอง
เพชรแต่ละเม็ดมีตำหนิมากน้อยต่างกันไป
นักอัญมณีจัดระดับความบริสุทธิ์ซึ่งพิจารณาด้วยกล้องกำลังขยาย 10
เท่า
FL (Flawless) เพชรไร้ตำหนิทั้งภายนอกและภายใน เพชรระดับนี้หายากมากๆเลยค่ะ
IF (Internally Flawless) เพชรไร้ตำหนิภายใน
VVS1 และ VVS2 (Very Very Slightly Included)
เพชรระดับนี้มีตำหนิภายในที่เล็กมากที่สุด ซึ่งจะมองได้ยาก
VS1 และ VS2 (Very Slightly Included) เพชรระดับนี้มีตำหนิภายในเล็กน้อย
SI1 และ SI2 (Slightly Included)
เพชรระดับนี้มีตำหนิภายในซึ่งสังเกตเห็นได้
I1, I2 และ I3 (Imperfect) เพชรระดับนี้มีตำหนิภายในที่เห็นได้อย่างชัดเจน
2. Color (สี)
เพชรขาวใสไร้สีจะมีมูลค่ามากที่สุด
ยิ่งเพชรมีสีเหลืองเพิ่มขึ้น ราคาก็ยิ่งลดลง คนไทยเราจะเรียกสีเพชรเป็น
“น้ำ” ถ้าน้ำ 100% คือเพชรไร้สี
เพชรที่มีเปอร์เซ็นต์ลดลงมาเรื่อยๆความเหลืองก็จะเพิ่มขึ้น
แต่ในระดับสากลจะใช้เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษตั้งแต่ D ถึง Z
ซึ่งจะเทียบได้อย่างนี้ครับ
D = 100%, E = 99%, F = 98% … ไล่ไปเรื่อยๆ
การจัดระดับสีเพชรดูได้จากภาพครับ
3. Cut (การเจียระไน)
การเจียระไนของเพชรนั้น
ต้องเจียให้ได้สัดส่วนเหมาะสม ก้นเพชรไม่ลึกหรือตื้นเกินไป
เหลี่ยมของเพชรไม่เบี้ยว หน้าเพชรไม่เล็กหรือกว้างเกินไป
ทำให้แสงตกกระทบจนมีประกายขึ้นมาระยิบระยับสวยงาม ดูจากรูปนะคะ
รูปแรกก้นเพชรตื้นเกินไป ทำให้แสงไม่ตกกระทบ แต่ทะลุลงไปข้างล่าง
ส่วนรูปที่สามก้นลึกเกินไปอีก แสงก็ไม่ตกกระทบเช่นกัน
เพชรที่เจียได้สัดส่วนสวยงามจะเป็นเหมือนรูปกลาง
ครับ
วัตถุประสงค์หลักของ "การเจียระไน" คือการทำให้เพชรเป็นประกาย เงางาม
ที่สุด ซึ่งจะพิจารณาจากความสวยงามโดยรวม สัดส่วน ความสมมาตร การขัดเงาผิว
และอีกหลายอย่างด้วยกัน โดยสถาบันอัญมณีศาสตร์ชั้นนำ
ของโลกได้จัดระดับไว้เพียง 5 ระดับคือ
Excellent (ดีเยี่ยม),
Very Good (ดีมาก), Good (ดี), Fair (ปานกลาง), Poor (แย่)
แต่การระบุคุณภาพของ การเจียระไนที่แน่นอนนั้นทำได้ยากมากค่ะ
เนื่องจากจะต้องดูขนาด สัดส่วนที่สมบูรณ์ ไม่บาง หรือหนาจนเกินไป
สัดส่วนเพชรที่ดีที่สุดตามอุดมคติเป็นไปตามรูปด้านล่างครับ
4. Carat (น้ำหนักกะรัต)
น้ำหนักกะรัตเป็นมาตรฐานใน
การชั่งน้ำหนักของเพชรและอัญมณีอื่นๆ 1 กะรัต มีค่าเท่ากับ 0.2 กรัม
ราคาเพชรจะคิดเป็นราคาต่อกะรัต เพชรยิ่งใหญ่น้ำหนักเยอะก็ยิ่งหายาก
ราคาต่อกะรัตก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
1 กะรัต ยังแบ่งออกเป็น 100 สตางค์ ดังนั้น เพชร 0.50 กะรัต คือเพชร 50
สตางค์
บางคนอาจสงสัยว่า เอ๊ะ! เราซื้อแหวนเพชรมา
เพชรอยู่ในตัวเรือนอย่างนี้ก็ไม่ได้ชั่งน้ำหนักเพชรสิ
เราจะโดนโกงน้ำหนักหรือเปล่า
เราสามารถดูจากเส้นผ่าศูนย์กลางของเพชรเพื่อประมาณน้ำหนักเพชรได้ครับ เช่น
เพชร 0.50 ct จะมีหน้าเพชรอยู่ที่ประมาณ 5.0 mm, เพชร 1.00 ct
จะมีหน้าเพชรอยู่ที่ประมาณ 6.4 mm
การเจียนไนเพชร
1. Heart &
Arrow จะเห็น
ถึงรูปทรงเรขาคณิต
และส่วนต่างๆของการเจียรนัยที่สมบูรณ์แบบตามหลักการเจียรนัยชั้นสูง
รูปภาพข้างล่างนี้ แสดงให้เห็นถึงภาพที่ปรากฏให้เห็น
เมื่อส่องเพชรหรืออัญมณีด้วยกล้องจากทางด้านก้นและด้านบนสุด
ด้านปลายแหลม(ก้น)ของเพชร
มีรูปทรงที่สมมาตรอย่างสมบูรณ์
ซึ่งแต่ละด้านจะปรากฏขนาดและรูปร่างของรูปหัวใจให้เห็นอย่างชัดเจน
ด้านบน ของมณีหรือเพชรลงไปตรงๆ
ผ่านกล้อง จะปรากฏรูปทรงที่สมมาตรอย่างสมบูรณ์ ปรากฏเป็นรูปลูกศร
พุ่งตรงออกไปรอบทิศทางอย่างเห็นได้ชัด
สต๊อกเพชรมีใบเซอร์ของ GIA (update 28.10.13)
-
